ยังมีความเข้าใจผิดในวงการเล่นกล้ามบางกลุ่ม ที่มองว่าการกินยากลุ่ม Statin เป็นเรื่องที่ไร้สาระ ให้หยุดกิน เพราะมีผลเสียมากกว่าผลดี
ก่อนที่ผมจะพูดถึงกลุ่ม Bodybuilding ระดับสูงที่ใช้ Statin
ผมขอพูดพื้นฐานของการจ่าย Statin ให้กับในคนปกติก่อน ว่าการจ่าย Statin ในคนปกติ (ที่มีความเสี่ยง) มันไม่ใช่เรื่องแปลก หรือ ไร้สาระ
เพราะจริงๆแล้ว ในบุคคลทั่วไปที่ไม่ได้ใช้ AAS ก็ใช้ยากลุ่มนี้กันเยอะมากๆ
เราต้องทำความเข้าใจก่อนว่า อาหารบ้านเรานั้น มันเอื้อต่อการเพิ่ม คอเลสเตอรอลด้วย การที่หมอบอกให้คุมอาหาร คิดว่าคนไข้กี่เปอร์เซ็นต์ที่ทำได้
และในบางเคสที่หมอจ่ายยากลุ่มนี้ ก็มีความเสี่ยง จึงพิจารณาที่จะจ่ายยา
ยกตัวอย่างเช่น หมอเฉพาะทาง GI จ่าย Statin ให้ผู้ป่วยที่หลังจากทำอัลตร้าซาวด์ช่องท้อง และ พบว่ามีไขมันเกาะตับ โดยที่ผู้ป่วยเองได้ควบคุมปัจจัยอื่นเช่น อาหาร ออกกำลังกาย ไปแล้ว แต่ค่า ไขมันยังสูง ซึ่งการที่หมอ GI จ่าย Statin ให้คนไข้ ซึ่งก็ถูกต้องแล้ว ซึ่ง benefit มันมากกว่า risk อยู่แล้ว และจ่ายเพราะ คนไข้ มีที่จะเสียชีวิตมากกว่าที่ไม่จ่าย
และยากลุ่ม Statin เป็นยากลุ่มที่ค่อนข้างปลอดภัย และ ปลอดภัยถึงขั้นที่ หมอแนะนำให้คนไข้อายุ 70 ปี ++ กินไปตลอดชีวิต เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่จะตามมา
ซึ่งการจ่าย Statin บนพื้นฐานของ “การมีความเสี่ยง” นั้น ไม่ใช่เรื่องผิด เนื่องจากว่า bodybuilder นั้น มีการใช้ AAS และ AAS ทุกตัวล้วนยก Cholesterol and LDL แถมยังมีผลไปกด HDL อีก
ในบางคนมองว่ากินยากลุ่มนี้มีข้อเสีย เช่น สลายกล้ามเนื้อ ทำให้ตับทำงานหนัก – แต่การกินยากลุ่มนี้ มันมีข้อดี มากกว่าเสีย เพราะช่วยให้ ระดับ คอเลสเตอรอลของเราอยู่ในเกณฑ์ที่ปกติ และ ลดความเสี่ยงในการเกิดหลอดเลือดหัวใจ
ถ้าหากว่ายามันอันตรายมาก แล้วทำไมหมอถึงสั่งจ่ายยาประเภทนี้เยอะมากๆ
ลองไปสังเกตุคนรอบตัวของเราเองก็ได้ครับ ว่า พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย ของเรา ก็ยังกินยากลุ่มนี้
เคยมีเคสตัวอย่าง คนใกล้ตัวผมเองนี่แหละ
ไปหาหมอ แล้วพอว่า มีค่าคอเลสเตอรอลที่สูงมากๆ แต่ กลัวผลข้างเคียงยา สุดท้าย เส้นเลือดในสมองแตกตาย
กลับมาที่ในวงการ Bodybuilding ระดับสูง ที่เขาใช้ Hormones กัน เขาไม่ได้เอา Statin มาใช้ช่วยในเรื่องของการลดคอเลสเตอรอล ในหลอดเลือดอย่างเดียว
ซึ่งจริงอยู่ว่า Chol. and LDL สามารถลดได้ด้วย อาหาร… แต่ อย่าลืมนะว่า Chol. และ LDL ที่สูงในเลือดนั้น มาจากอาหารเพียงแค่ 25% เท่านั้น
โดยที่คอเลสเตอรอลส่วนใหญ่กว่า 75 % สร้างขึ้นเองจากภายในร่างกายของเราเอง โดยเฉพาะที่ตับ
25% of cholesterol in our bodies on a given day comes from what we eat
75% is produced by our bodies
ซึ่งบางคนที่ใช้ Hormones เหล่านี้ เพื่อพัฒนากล้ามเนื้อของตัวเองนั้น แม้จะควบคุมอาหารดีแค่ไหน ก็ใช่ว่าจะทำให้ค่า Cholestrol and LDL , HDL จะดีได้ ประกอบกับใช้ AAS ที่มีผลไปยกค่าเหล่านี้ขึ้นอีก … ซึ่งการที่คนที่ใช้ AAS เหล่านี้ จะกิน Statin ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ซึ่ง ขอย้ำว่าถ้า ไขมันสูงลิ่ว ก็ควรกิน
และมาถึงเรื่องสำคัญที่สุด ยิ่งกว่าแค่เรื่อง การลดไขมันจาก Statin แต่คือเหตุผลหลักที่ Pro bodybuilder ในระดับสากลโลกใช้ คือ
Pleiotropic effect of statins
Statin เองมีผล Pleiotropic effect ที่ช่วยลดความเสี่ยงจากการใช้ AAS ในวงการ Body building ได้มากมาย เช่น…
- ลดการอักเสบ ( Reduction in oxidative stress )
- ทำให้การทำงานของเยื่อบุผนังหลอดเลือดดีขึ้น ( Endothelial Function )
- Improve vascular tone ( ความตึงตัวของหลอดเลือด )
- ยับยั้งกระบวนการอักเสบของหลอดเลือด (Inflammatory Process)
- ลดการสร้าง Fibrinogen ซึ่งเป็นสารโปรตีนชนิดหนึ่งในเลือด และเป็นสารสำคัญในขบวนการแข็งตัวของเลือด จึงทำให้ลดความเสี่ยงของการเกิดลิ่มเลือดอุดตันได้
- เพิ่มความคงตัวของเกล็ดเลือด (Stabilize Platelet)
Benefit เหล่านี้ มันมีน้ำหนักเพียงพอที่ทำให้ Pro Bodybuilder ระดับสูง ก็เลือกใช้ในรายที่ต้องใช้จริงๆ
และ benefit ที่ได้นี้ก็ “คุ้มค่า” กับ risk ที่ต้องเจอ