Testosterone ตัวนี้ทุกท่านน่าจะรู้จักกันอยู่แล้วหละ ไม่น่ามีใครไม่รู้จักวันนี้จะมาสรุปให้อีกที
เพราะหลาย ๆ คนคงเคยอ่านผ่านตามาบ้างไม่มากก็น้อย
มันคือฮอร์โมนเพศชายที่ถูกดัดแปลงนิดหน่อยเพื่อให้มีช่วงเวลาออกฤทธิ์ต่างกันตามแต่ละชนิด
อย่างเช่นบางตัวก็อยู่ในระบบนานเป็นอาทิตย์ บางตัวแป๊บเดียวหมดฤทธิ์แล้ว (Ester)
แต่สุดท้ายร่างกายก็ได้รับ testosterone เหมือนกันนะ แค่เราต้องรู้ว่าตัวไหนเหมาะกับการใช้งานหรือเป้าหมายของเรามากที่สุด
Ester ยามีหลายตัวแต่จะขอพูดถึงตัวที่นิยมนำมาใช้เป็นหลัก
โก๋ขออธิบายดังนี้
Propionate
Enanthate
Cypionate
Undecanoate
Sustanon
แต่ละตัวจะแตกต่างกันไป
โก๋จะเขียนข้อดีข้อเสียให้ด้วยละกันเอาไว้ให้พิจารณา
และจะขอลงรายละเอียดเพียงแค่ Enanthate และ Cypionate
เพราะเป็นตัวที่เราฮิตนิยมใช้
_________________________________
• Testosterone Propionate
• ระยะเวลาออกฤทธิ์: 2-3 วัน
• ข้อดี: ออกฤทธิ์เร็ว เหมาะกับคนที่ต้องการปรับระดับฮอร์โมนเร็ว ๆ
• ข้อเสีย: ต้องฉีดบ่อย (ทุก 2-3 วัน) ทำให้หลายคนไม่ชอบเพราะรู้สึกเจ็บหรือมีอาการบวมแดงที่บริเวณฉีด
การปักบ่อย หมายถึง ค่าใช้จ่ายที่ตามมาด้วย
_________________________________
• Testosterone Enanthate
• ระยะเวลาออกฤทธิ์: 7-10 วัน
• ข้อดี: เป็นที่นิยมในหมู่คนที่ใช้ยารักษาภาวะฮอร์โมนเพศชายต่ำ (TRT) เพราะฉีดแค่ 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ก็พอ
• ข้อเสีย: อาจมีความผันผวนของระดับฮอร์โมนถ้าฉีดไม่สม่ำเสมอ
________________________________
• Testosterone Cypionate
• ระยะเวลาออกฤทธิ์: 8-12 วัน
• ข้อดี: คล้ายกับ Enanthate แต่มีความหนืดมากกว่า ทำให้การออกฤทธิ์ยาวนานกว่าเล็กน้อย
• ข้อเสีย: อาจทำให้รู้สึกไม่สบายที่บริเวณฉีดเพราะน้ำมันมีความหนืดสูงกว่า
___________________________________
• Testosterone Undecanoate
• ระยะเวลาออกฤทธิ์: 3-4 สัปดาห์
• ข้อดี: ฉีดแค่เดือนละครั้ง! เหมาะกับคนที่ไม่อยากเจาะเข็มบ่อย
• ข้อเสีย: ราคาแพงและหาซื้อยากกว่า esters อื่น ๆ
__________________________________
• Sustanon 250
• ระยะเวลาออกฤทธิ์: 3-4 สัปดาห์ (ประกอบด้วย ester หลายชนิด)
• ข้อดี: ระดับฮอร์โมนคงที่ในช่วงระยะยาว เหมาะกับการ TRT
• ข้อเสีย: เนื่องจากมีหลาย ester บางคนอาจมีอาการแทรกซ้อนได้ง่าย เช่น ปวดหัวหรือรู้สึกไม่สบายตัว โก๋เลยไม่ค่อยแนะนำ
________________________________
Testosterone (Enanthate & Cypionate)
Testosterone Enanthate
ที่เรามักได้ยินบ่อยๆ ตัวนี้มันเป็นน้ำมันแบบฉีด ที่มีการเติม Enanthate ester เข้าไป ทำให้มันเป็นฮอร์โมนที่ออกฤทธิ์นาน
ถ้าฉีดแค่สัปดาห์ละ 1-2 ครั้งก็ยังคุมระดับฮอร์โมนในร่างกายให้ค่อนข้างคงที่ได้แล้ว ถือว่าสะดวกกว่าต้องฉีดบ่อยๆ
แถมฮอร์โมนมันจะลดลงแบบชัดเจนหลังจาก 5 วันแรก แต่ก็ยังมีระดับที่สูงกว่าปกติต่อให้ผ่านไปเป็นอาทิตย์
Testosterone Cypionate จริงๆ มันคล้ายๆ กันเลยนะ ทั้งระยะเวลาออกฤทธิ์และการปล่อยฮอร์โมน เหมือนแทบจะใช้แทนกันได้สบายๆ แต่ที่ต่างกันก็คือ
ตอนเริ่มผลิต Enanthate มันทำกันนอกอเมริกา ส่วน Cypionate นิยมใช้กันในอเมริกาเป็นหลัก แต่ตอนนี้ทั้งคู่ก็ใช้กันทั่วโลกแล้ว หาง่ายพอๆ กัน ไม่ว่าที่ไหนก็มีหมด
และตัว Testosterone ไม่ว่าจะเป็น Ester ใด ๆ ช่วยเผาผลาญไขมันได้ดี เพราะมันจับกับตัวรับในเซลล์ไขมัน
ทำให้ไขมันถูกเผาออกมาได้ง่ายขึ้น แถมยังช่วยลดการสร้างไขมันใหม่อีกด้วย เพราะมันช่วยสร้างกล้ามเนื้อ
การที่ร่างกายมีกล้ามเยอะขึ้นก็ช่วยให้ใช้พลังงานจากแคลอรี่ส่วนเกินได้มากกว่าเอาไปเก็บเป็นไขมัน
ซึ่งมันส่งผลให้ไขมันลดลง และยังทำให้เม็ดเลือดแดงเพิ่มขึ้นอีก ส่งผลให้ร่างกายมีออกซิเจนไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ดีขึ้น
ทำให้อึดขึ้น และฟื้นตัวจากการออกกำลังกายหนักๆ ได้เร็วขึ้น
แต่ถ้าใครอยากเน้นเรื่องอึดโก๋แนะนำเป็นตัวอื่นที่ใช้ในด้านนี้โดยเฉพาะดีกว่า
________________________________
ที่โก๋บอกมันช่วยเพิ่มกล้ามเนื้อได้เพราะมันไปกระตุ้นหลาย ๆ ส่วน
เช่น ทำให้ร่างกายผลิต Insulin Growth Factor 1 (IGF-1) เพิ่มขึ้น ซึ่งฮอร์โมนตัวนี้มีส่วนช่วยให้กล้ามเนื้อโตไว
แถมยังไปกดการทำงานของฮอร์โมนที่ทำลายกล้ามเนื้ออีกด้วย และจากผลพวงทั้งหมดเนี่ย มันเลยไปช่วยเพิ่มจำนวนเซลล์ประสาทในกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อหดตัวได้ดีขึ้น
และยังทำให้ร่างกายสร้างไกลโคเจนได้มากขึ้นด้วย ซึ่งไกลโคเจนก็คือพลังงานหลักที่เราใช้ตอนออกกำลังกายหนักๆ ดังนั้นทั้งแรงและความอึดก็ดีขึ้น
เรื่องนี้มีงานวิจัยรองรับนะครับ
________________________________
เรื่องที่หลาย ๆ คนบอกใช้ Testosterone Enanthate แล้วตัวบวมน้ำน้อยกว่า Testosterone Propionate อีก แต่ก็ไม่ได้เป็นเหมือนกันทุกคนนะ
คือแต่ละคนตอบสนองกับฮอร์โมนไม่เหมือนกัน วิธีเดียวที่จะรู้คือ ต้องลองใช้ดูเองว่าเราถูกกับตัวไหนมากกว่า
ส่วนเรื่องการใช้โก๋จะอธิบายหลักการแบบนี้นะใครสนใจติดต่อโก๋มา เพราะโก๋ต้องวางสแตกให้อีกทีตามความเหมาะสม
________________________________
ถ้าพูดถึง Testosterone Enanthate มันจะถูกกักเก็บในไขมันหลังฉีด เพราะมี ester ยาว คือ Carbon ตำแหน่งที่ 7 ทำให้มันค่อยๆ ปล่อยฮอร์โมนทีละนิด ระดับในเลือดจะพุ่งใน 24-48 ชั่วโมงแรก แล้วค่อยๆ ลดลง
พอเรารู้แบบนี้เราก็จะวางสแตกได้ง่ายละ เอาง่าย ๆ โดสเริ่มต้นบางคนฉีดแค่ 200-250 mg/สัปดาห์ ก็เห็นผล
แต่ถ้าเป็นพวกโปรเนี่ยอาจฉีดกันเป็นกรัมต่อสัปดาห์เลยแต่ยังไงโก๋ก็แนะนำให้ใช้ 2 ครั้ง / สัปดาห์นะเพราะระดับในเลือดมันจะคงที่กว่า
________________________________
ส่วนผลข้างเคียงหรือ Side effect จะบอกแบบนี้ ในผู้ชายส่วนใหญ่เกิดจากการที่มันเปลี่ยนเป็น Estrogen ผ่านเอนไซม์ Aromatase ซึ่งทำให้เกิดอาการบวมน้ำหรือ Gynecomastia (นมสาวในผู้ชาย)
ยิ่งใช้โดสสูง ความเสี่ยงยิ่งเพิ่ม โดยเฉพาะพวก ester ที่ออกฤทธิ์นาน จะบวมน้ำเยอะกว่าพวกที่ออกฤทธิ์สั้นอย่าง Propionate
วิธีแก้คือใช้ยาต้าน Aromatase (AI) หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ Letrozole
หรือ SERM หรือที่เรา ๆ เรียกยี่ห้อยากัน
เช่น Nolvadex เพื่อลดผลข้างเคียงพวกนี้ ถ้าคุมดีๆ ก็ไม่น่ามีปัญหาหนัก
และส่วนอื่นเหมือนกับสเตียรอยด์ตัวอื่น ๆ หน้ามัน สิว หรืออื่น ๆ ขึ้นชื่อว่าฮอร์โมนเพศชายยังไงเราก็หนีมันมิพ้นเรื่องพวกนี้
________________________________
Hepatotoxicity
ไม่เป็นพิษต่อตับ หรือไต เพราะมันเป็นตัวเบสิกสุดๆ พื้นฐานด้านฮอรโมนอยู่แล้วพัฒนากันมาหลายปี และไม่ใช่ Alpha 7 อีกด้วย
Cardiovascular
มีผลกระทบต่อ HDL , Cholesterol หรือความดัน มากน้อยขึ้นอยู่กับคน