HCG หรือ Human Chorionic Gonadotropin
Active life : 64 ชั่วโมง
HCG จริงๆ แล้วเป็นฮอร์โมนที่ร่างกายผู้หญิงสร้างขึ้นตอนตั้งครรภ์ช่วงแรก อาจตรวจพบในปัสสาวะ หรือ เลือดภายใน 1 สัปดาห์ของเพศหญิง หลังจากที่ไข่กับอสุจิได้มีการปฏิสนธิเป็นตัวอ่อน และระดับฮอร์โมนมักเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
ซึ่งฮอร์โมนตัวนี้ เป็นตัวที่ใช้ในทดสอบการตั้งครรภ์ เพราะถ้าไม่ท้อง ร่างกายจะไม่มีฮอร์โมนนี้เลย
ในทางการแพทย์ HCG จะใช้ในการรักษาเด็กผู้ชายที่ลูกอัณฑะยังไม่ลงถุง (undescended testicles) หรือ รักษาผู้ชายที่มีอาการฮอร์โมนเพศชายต่ำ (hypogonadism) และยังใช้เป็นยาช่วยให้ไข่ตกในผู้หญิงที่มีปัญหามีลูกยาก
สำหรับนักกล้ามที่ใช้สเตียรอยด์ HCG จะเลียนแบบการทำงานของ LH (luteinizing hormone)
ซึ่ง LH เป็นฮอร์โมนที่สร้างจากต่อมใต้สมอง ทำให้ลูกอัณฑะสร้างฮอร์โมนเพศชาย (เทสโทสเทอโรน)
การใส่ HCG เพื่อเป็นการเลียนแบบการทำงานของ LH (luteinizing hormone) ซึ่ง LH เป็นฮอร์โมนที่สร้างจากต่อมใต้สมอง ทำให้ลูกอัณฑะสร้างฮอร์โมนเพศชาย ( เทสโทสเทอโรน )
มีบางเคสที่งานวิจัยพบว่าลูกอัณฑะหยุดการทำงานไปบ้าง ถึงแม้ LH ในร่างกายจะกลับมาปกติแล้ว แต่ลูกอัณฑะก็อาจจะยังไม่ทำงานเต็มที่ ซึ่งอันนี้ ถ้าเรารอไปมันก็อาจจะกลับมาทำงานได้เองตามปกติ โดยปกติแล้วก็ไม่ต้องห่วงอะไร แต่บางคนที่ใช้ HCG เพื่อป้องกันลูกอัณฑะฝ่อ จากการที่ระบบ HPTA ทำงานน้อยลงจากการใช้ยา
โก๋เห็นหลายคนมีการใช้ HCG เพื่อป้องกันลูกอัณฑะฝ่อ เป็นผลมาจากระบบ HPTA ทำงานน้อยลงขณะใช้ยา แต่ตรงนี้ที่โก๋บอกอัณฑะหยุดทำงานระดับนึง แต่จริง ๆ มันก็ไม่ได้เป็นอะไรร้ายแรงแค่มันทำให้เซลล์ที่ชื่อว่า Leydig cells อ่อนแอ และเสี่ยงโดนทำลายจากอนุมูลอิสระ ซึ่ง HCG มาช่วยป้องกันตรงนี้
แต่ถ้าใช้ในปริมาณสูงเกินไป จะกระตุ้นการทำงานของเอนไซม์ Aromatase และ ทำให้มีความเสี่ยงในการเกิดนมสาว ( Gyno )
โก๋เลยอยากแนะนำให้ใช้น้อย ๆ แต่ถี่ขึ้นจะดีกว่า โดยจริง ๆ แล้วร่างกายคนเรามันจะไม่มีอะไรที่จะหยุดการทำงานได้ เรียกว่าแค่ลดการทำงานจะดีกว่า ซึ่งการลดการทำงานแสดงว่ามันยังทำงานอยู่ซึ่งเราไม่ควรจะไปกังวลอะไรเกินเหตุ
แล้วส่วนใครต้องการนำมาใช้สำหรับ PCT ก็ย่อมได้ ส่วนวิธีการนั้นโก๋จะแนะนำเป็นรายบุคคลไป เพราะแต่ละคนไม่เหมือนกัน