อย่างที่เราๆ เคยทราบกันมาก่อนแล้วว่า ถ้าเรานอนน้อย มีความเสี่ยงที่จะทำให้เป็นโรคตามมาได้
และ วันนี้โก๋ก็ไปเจองานวิจัยส่วนหนึ่ง ที่บ่งชี้ว่า การนอนน้อยทำให้เกิดการไม่แข็งตัวของอวัยวะเพศ – Erectile dysfunction (ED)
จากไลฟ์สไตล์ในปัจจุบัน การแข่งขันที่สูงขึ้น คนก็ทำงานหนักขึ้นตาม นอนดึกมากขึ้น และมีภาวะการไม่แข็งตัวเกิดขึ้น
โก๋เลยคิดว่า เอามาเผยแพร่ให้ทราบกันดีกว่า
แต่โก๋บอกไว้ก่อนว่า การวิจัยส่วนใหญ่ ไม่ได้เป็นการบ่งบอกว่านอนน้อยแล้วจะเกิดอาการได้ แต่เพียงในงานวิจัยนั้นสรุปมาโดยมีแนวโน้มที่จะทำให้เกิดภาวะแบบนั้นได้ เพราะการแข็งตัวเนี่ยมันต้องอาศัยกลไกลหลาย ๆ อย่างในร่างกาย
คือเมื่อมีการกระตุ้นทางเพศ ร่างกายจะปล่อยสาร ไนตริกออกไซด์ ( NO ) ซึ่งทำให้กล้ามเนื้อเรียบในอวัยวะเพศผ่อนคลาย เลือดจึงไหลเข้าไปมากขึ้น ทำให้แข็งตัว และสารตัวนี้จะไปกระตุ้นให้เกิด cGMP ซึ่งเป็นตัวช่วยให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย และ ทำให้แข็งตัวได้นานขึ้น
แต่ถ้า cGMP โดนทำลายเร็ว (โดยเอนไซม์ PDE โดยเฉพาะ PDE5) ก็จะทำให้เลือดไหลออกเร็ว ทำให้หดตัวเร็ว ตัวช่วยที่โก๋เคยบอกไปแล้วก็อย่าง เช่น ไวอากร้า ก็คือยาที่ช่วยยับยั้ง PDE5 นั่นเอง
การไม่แข็งของอวัยวะเพศ มีส่วนทั้งเรื่องของ เลือดที่ไหลเวียน และรวมถึง จิตใจ ระบบประสาท และสารเคมีต่าง ๆ
เราจะเห็นว่าการแข็งตัวไม่ใช่มีแค่เรื่องฮอร์โมน แบบที่เราๆ เข้าใจ และชอบไปโทษยาฮอร์โมนที่ใช้อยู่ และไม่ได้ไปดูปัจจัยอื่นร่วม
ซึ่งถ้ามีอะไรผิดไปก็ทำให้เกิดปัญหาไม่แข็งตัวได้ ละทีนี้พอเรานอนน้อยมันจะเกี่ยวกันยังไง โก๋ขอยกภาพในงานวิจัยมาสรุปให้ แบบ ร่างกายจะเกิดความผิดปกติหลายระบบ ซึ่งสามารถนำไปสู่ภาวะ ไม่แข็งตัว (Erectile Dysfunction) ได้ โดยในภาพนี้อธิบายผ่าน 3 ส่วนหลัก ๆ ที่เกี่ยวข้องกัน
1. HPA axis ทำงานมากเกินไป (HPA axis overactivity)
– การนอนน้อยกระตุ้นให้ระบบนี้ทำงานมากขึ้น
– ส่งผลให้ฮอร์โมนเครียดอย่าง คอร์ติซอล (Cortisol) สูงขึ้น
– ทำให้เกิด การอักเสบ และ ความเครียดเรื้อรัง ซึ่งไม่ดีต่อสุขภาพเพศ
2. ระบบประสาทอัตโนมัติแปรปรวน (ANS imbalance)
– ระบบนี้ควบคุมการทำงานอัตโนมัติในร่างกาย เช่น หัวใจ หลอดเลือด
– เมื่อนอนไม่พอ ระบบนี้จะหลั่งสาร คาเทโคลามีน (Catecholamines) มากเกินไป
– ส่งผลให้หลอดเลือดหดตัว (Vasoconstriction) เลือดไปเลี้ยงไม่พอ
3. การหลั่งฮอร์โมนเพศผิดปกติ และเทสโทสเตอโรนต่ำ (Aberrant SREs & Low Testosterone)
– นอนไม่พอทำให้ร่างกายหลั่งเทสโทสเตอโรนน้อยลง
– เกิดปัญหา หลอดเลือดในน้องชายเสื่อม (Endothelial dysfunction)
– ภาวะขาดออกซิเจนในเนื้อเยื่อองคชาต (Cavernosum Hypoxia)
ทั้งสามส่วนนี้ก็เป็นส่วนที่ทำให้ไม่แข็งตัวได้ และอย่างที่เราๆ เคยได้ยินมาว่าถ้าใช้ Masteron (Drostanolone) จะทำให้ช่วยเรื่องการแข็งตัว
โก๋จะบอกอย่างนี้ Masteron มันเป็น DHT ก็จริงมีส่วนทำให้มันแข็งตัวได้บ้าง แต่ถ้าเรายังควบคุมปัจจัยต่างๆ ได้ไม่ดีเพียงพอ ต่อให้ใช้ยามหาเทพยังไง ก็ไม่ได้ทำให้แข็งตัวขึ้นมาได้
ยิ่งในคนที่ทำงาน จนแทบไม่ได้พักผ่อน โดนกดดัน ไหนจะจากเรื่องงาน เรื่องเงิน และอื่นๆ
ปัจจัยพวกนี้ทำให้สมองมันหลั่งสารความเครียดมาค่อนข้างสูง ก็ไม่แปลกที่มันจะไม่แข็ง
ฉะนั้นโก๋อยากให้เลิกโฟกัสว่า จะใช้ยาอะไรดีให้มันแข็งตัวกันดีกว่า แต่อยากให้ถ้าควบคุมปัจจัยอื่นๆด้วย และถ้ากรณีอยากจะหาอะไรไปเสริม
โก๋ก็อยากแนะนำเป็นยาต้าน PED 5 ตามบทความที่โก๋เคยได้แนะนำไป แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ลองมาให้โก๋จัดสแตกให้เหมาะสมกับบุคคลก่อนแล้วค่อยมาดูปัจจัยภายหลังกันเพื่อน ๆ